[STARCAST] กราฟชีวิตดารา – จางกึนซอก
Cr. jangkeunsukthailand
จะเป็นยังไงนะถ้าชีวิตของคนเราถูกบรรยายออกมาในรูปของกราฟ? รูปทรงของกราฟก็คงจะแตกต่างกัน
ไปในแต่ละบุคคล แต่คงไม่มีกราฟของใครที่จะพุ่งขึ้นอยู่ตลอดเวลา มันคือเรื่องจริงโดยเฉพาะเมื่อเรา
พูดถึงดาราที่ถูกจัดอันดับโดยสาธารณชนอยู่เสมอๆ กราฟของพวกเขาจะขึ้นๆ ลงๆ อย่างเห็นได้ชัด บาง
ครั้งวิกฤติการณ์ก็กลายเป็นโอกาสสำหรับบางคน หรือจุดสูงสุดในชีวิตของบางคนอาจจะกลายเป็นช่วง
เวลาที่เลวร้ายสำหรับชีวิตส่วนตัวของพวกเขาก็ได้
ไปในแต่ละบุคคล แต่คงไม่มีกราฟของใครที่จะพุ่งขึ้นอยู่ตลอดเวลา มันคือเรื่องจริงโดยเฉพาะเมื่อเรา
พูดถึงดาราที่ถูกจัดอันดับโดยสาธารณชนอยู่เสมอๆ กราฟของพวกเขาจะขึ้นๆ ลงๆ อย่างเห็นได้ชัด บาง
ครั้งวิกฤติการณ์ก็กลายเป็นโอกาสสำหรับบางคน หรือจุดสูงสุดในชีวิตของบางคนอาจจะกลายเป็นช่วง
เวลาที่เลวร้ายสำหรับชีวิตส่วนตัวของพวกเขาก็ได้
นั่นคือเหตุผลว่าทำไม STARCAST จึงจัดทำ ‘กราฟชีวิตดารา’ เพื่อที่เราจะได้เฝ้ามองอย่างใกล้ชิดว่า
เหล่าดาราเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร
เหล่าดาราเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร
ดาราคนแรกที่เราจะมาดูกราฟชีวิตของเขาก็คือจางกึนซอก เขาเข้าวงการตั้งแต่อายุหกขวบในฐานะนาย
แบบเสื้อผ้าเด็ก ปีที่แล้วเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีในวงการบันเทิงของเขา เขาได้รับตำแหน่ง ‘เอเชีย
ปริ๊นซ์’ ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น กราฟชีวิตของเขามีจุดพลิกผันที่เห็นชัดๆ หลายต่อหลายครั้ง การขึ้นๆ
ลงๆ ของเส้นกราฟแสดงให้เห็นว่าเขายังมองหาจุดเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ในขณะเดียวกันก็รอคอยโอกาสทุก
ครั้งที่เขาเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ไปดู ‘ชีวิตของผู้ชายที่ชื่อจางกึนซอก’ กันเถอะ
แบบเสื้อผ้าเด็ก ปีที่แล้วเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีในวงการบันเทิงของเขา เขาได้รับตำแหน่ง ‘เอเชีย
ปริ๊นซ์’ ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น กราฟชีวิตของเขามีจุดพลิกผันที่เห็นชัดๆ หลายต่อหลายครั้ง การขึ้นๆ
ลงๆ ของเส้นกราฟแสดงให้เห็นว่าเขายังมองหาจุดเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ในขณะเดียวกันก็รอคอยโอกาสทุก
ครั้งที่เขาเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ไปดู ‘ชีวิตของผู้ชายที่ชื่อจางกึนซอก’ กันเถอะ
แปลกราฟโดย nOohtAi
#ZIKZIN? จุดพลิกผัน! = ช่วงตกต่ำหลังการเกิดขึ้นของ ‘กึนจัง’
อาจดูเหมือนว่าจางกึนซอกนั้นไม่เคยมีประสบการณ์ความยากลำบาก ดั่งเช่นผลงาน ‘ZIKZIN’ ซึ่งเป็น
แบรนด์ของเขาที่เพิ่งเปิดตัวในเกาหลีและประเทศต่างๆ เมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตาม กราฟชีวิตของ
เขานั้นเต็มไปด้วยจุดพลิกผันมากมาย ช่วงจังหวะที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาคือตอนที่เขาเปิดการแสดงที่
โตเกียวโดมเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2011 บัตรชมการแสดงกว่า 45,000 ใบสำหรับการจัด
คอนเสิร์ตครั้งแรกถูกขายหมดเกลี้ยง เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาประสบความสำเร็จใน
ฐานะนักแสดงที่สามารถจุดชนวนกระแสเกาหลีในประเทศญี่ปุ่นได้โดยผ่านการแสดงทั้งร้อง เต้น และ
เป็นดีเจ อัลบั้มเดี่ยวของเขาออกวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นก่อนหน้าที่จะมีคอนเสิร์ตและขึ้นอันดับสูงสุดบน
ชาร์ตประจำวันของโอริกอนในสัปดาห์แรกที่วางแผง เขาเป็นนักร้องต่างแดนคนแรกที่ทำสถิตินี้และเป็น
คนที่สองในรอบ 30 ปี 4 เดือนในฐานะนักร้องเดี่ยวต่อจากมาซาฮิโกะ คอนโด ที่เคยทำสถิติไว้เมื่อเดือน
ธันวาคม 1980
แบรนด์ของเขาที่เพิ่งเปิดตัวในเกาหลีและประเทศต่างๆ เมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตาม กราฟชีวิตของ
เขานั้นเต็มไปด้วยจุดพลิกผันมากมาย ช่วงจังหวะที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาคือตอนที่เขาเปิดการแสดงที่
โตเกียวโดมเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2011 บัตรชมการแสดงกว่า 45,000 ใบสำหรับการจัด
คอนเสิร์ตครั้งแรกถูกขายหมดเกลี้ยง เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาประสบความสำเร็จใน
ฐานะนักแสดงที่สามารถจุดชนวนกระแสเกาหลีในประเทศญี่ปุ่นได้โดยผ่านการแสดงทั้งร้อง เต้น และ
เป็นดีเจ อัลบั้มเดี่ยวของเขาออกวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นก่อนหน้าที่จะมีคอนเสิร์ตและขึ้นอันดับสูงสุดบน
ชาร์ตประจำวันของโอริกอนในสัปดาห์แรกที่วางแผง เขาเป็นนักร้องต่างแดนคนแรกที่ทำสถิตินี้และเป็น
คนที่สองในรอบ 30 ปี 4 เดือนในฐานะนักร้องเดี่ยวต่อจากมาซาฮิโกะ คอนโด ที่เคยทำสถิติไว้เมื่อเดือน
ธันวาคม 1980
“ผมเชื่อว่าชีวิตของผมอยู่ในจุดสูงสุดตอนที่คนญี่ปุ่นเรียกผมว่า ‘กึนจัง’ และตอนที่ผมเปิดการแสดงที่
โตเกียวโดม การแสดงที่ญี่ปุ่นนั้นเป็นความฝันที่เลือนลางสำหรับผมตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แล้วฝันนั้นก็
กลายเป็นจริงเร็วกว่าที่คาดไว้”
โตเกียวโดม การแสดงที่ญี่ปุ่นนั้นเป็นความฝันที่เลือนลางสำหรับผมตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แล้วฝันนั้นก็
กลายเป็นจริงเร็วกว่าที่คาดไว้”
จางกึนซอกแต่งกายคล้ายเจ้าชายยุคกลางแห่งยุโรป ในคอนเสิร์ตครั้งแรกที่โตเกียวโดม
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2011
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2011
เรื่องดีๆ มักมาคู่กับข่าวร้าย เหมือนที่กล่าวไว้ตอนแรก เขาต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติทันทีหลังจากประสบ
ความสำเร็จครั้งใหญ่ เขาถลาลงสู่ความตกต่ำด้วยตัวของเขาเอง นั่นอาจเป็นเพราะความฝันที่กลายเป็น
จริงเร็วเกินไป กราฟชีวิตของเขาดิ่งลงเร็วพอๆ กับตอนที่พุ่งขึ้นสูงสุดหลังการเกิดขึ้นของ ‘กึนจัง’
ความสำเร็จครั้งใหญ่ เขาถลาลงสู่ความตกต่ำด้วยตัวของเขาเอง นั่นอาจเป็นเพราะความฝันที่กลายเป็น
จริงเร็วเกินไป กราฟชีวิตของเขาดิ่งลงเร็วพอๆ กับตอนที่พุ่งขึ้นสูงสุดหลังการเกิดขึ้นของ ‘กึนจัง’
“ผมคิดว่าผมถูกครอบงำด้วยความฝันครั้งใหม่ อาจเป็นเพราะผมมาถึงเส้นชัยของผมเร็วเกินไป ผมรู้สึก
กลัวและสับสนเมื่อคิดว่าผมควรจะทำมันต่อไป สารคดีของผมได้รับการเผยแพร่และผู้คนรอบๆ ตัวผมก็
ให้ความชื่นชมผมอย่างมาก แต่คำพูดเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นกับผมหรอก ผมไม่สามารถออกจากบ้านได้
เพราะผมไม่รู้ว่าจะทำอะไร”
กลัวและสับสนเมื่อคิดว่าผมควรจะทำมันต่อไป สารคดีของผมได้รับการเผยแพร่และผู้คนรอบๆ ตัวผมก็
ให้ความชื่นชมผมอย่างมาก แต่คำพูดเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นกับผมหรอก ผมไม่สามารถออกจากบ้านได้
เพราะผมไม่รู้ว่าจะทำอะไร”
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2013 จางกึนซอกโบกมือให้แฟนคลับที่งาน Dinner Show เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 20 ปีที่อยู่ในวงการ
เมื่อมองย้อนกลับไป ช่วงเวลาที่ตกต่ำอาจทำให้จางกึนซอกแข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่เขารู้สึกเจ็บปวดจะ
เป็นช่วงเวลาที่เขารวบรวมพลังเพื่อกำหนดเป้าหมายใหม่และเตรียมความพร้อมในการบรรลุเป้าหมายนั้น
เป็นช่วงเวลาที่เขารวบรวมพลังเพื่อกำหนดเป้าหมายใหม่และเตรียมความพร้อมในการบรรลุเป้าหมายนั้น
“ผมยึดมั่นในตัวเองและมีความคิดเชิงบวกถึงแม้ผมจะรู้สึกหดหู่หรือรู้สึกว่าไม่มีอะไรในสถานการณ์ที่
รุนแรง พอผมฟื้นตัวจากสภาพที่ตกต่ำ ผมจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองและก็แน่ใจว่าผมเชื่อใจตัวเองได้”
รุนแรง พอผมฟื้นตัวจากสภาพที่ตกต่ำ ผมจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองและก็แน่ใจว่าผมเชื่อใจตัวเองได้”
จางกึนซอกในวัยเด็ก
#วิกฤติ? โอกาส! = สิ่งล้ำค่าจากวัยเด็ก
ชีวิตของเขานั้นดูเหมือนจะเป็นการเดินทางที่ง่ายเหมือนคนอื่นๆ แต่จริงๆ แล้วไม่ง่ายเลย เขาเกิดมาเป็น
ลูกชายคนเดียวของครอบครัวที่มีอันจะกิน แต่เขาต้องเผชิญอุปสรรคครั้งแรกในวัย 12 ปีเมื่อธุรกิจของ
พ่อประสบความล้มเหลว เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เขาเดินทางเข้ากรุงโซลเพื่อเข้าวงการในฐานะดาราเด็ก
เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงเด็กจากละครสำหรับเด็กเรื่อง ‘Cummi, the Fairy’ ทางสถานี KBS
และ ‘Ladies of the Palace’ ทางสถานี SBS เขาได้รับเลือกให้เป็นนายแบบโฆษณาของบริษัท
โทรคมนาคม ซึ่งเป็นการปรากฎตัวในฐานะดาราวัยรุ่น ‘วิกฤติของครอบครัวของเขา’ เปิดโอกาสให้เขา
ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักแสดง เขาถ่ายแบบให้กับแบรนด์ชุดชั้นในทั้งๆ ที่มันทำให้เขาโดนเพื่อนๆ ล้อ และ
เขาก็ได้รับ “เงินซึ่งเพียงพอที่จะนำไปวางมัดจำค่าเช่ารายปี” (สัมภาษณ์ในรายการ ‘Golden Fishery-
Knee-Drop Guru’ ออกอากาศทางสถานี MBC เมื่อปี 2011) จางกึนซอกนั้นมีทัศนคติที่จะพลิกวิกฤติให้
เป็นโอกาส เขาผ่านความยากลำบากมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าแทนที่จะเอาแต่คร่ำครวญกับ
วิกฤติการณ์นั้น
ลูกชายคนเดียวของครอบครัวที่มีอันจะกิน แต่เขาต้องเผชิญอุปสรรคครั้งแรกในวัย 12 ปีเมื่อธุรกิจของ
พ่อประสบความล้มเหลว เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เขาเดินทางเข้ากรุงโซลเพื่อเข้าวงการในฐานะดาราเด็ก
เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงเด็กจากละครสำหรับเด็กเรื่อง ‘Cummi, the Fairy’ ทางสถานี KBS
และ ‘Ladies of the Palace’ ทางสถานี SBS เขาได้รับเลือกให้เป็นนายแบบโฆษณาของบริษัท
โทรคมนาคม ซึ่งเป็นการปรากฎตัวในฐานะดาราวัยรุ่น ‘วิกฤติของครอบครัวของเขา’ เปิดโอกาสให้เขา
ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักแสดง เขาถ่ายแบบให้กับแบรนด์ชุดชั้นในทั้งๆ ที่มันทำให้เขาโดนเพื่อนๆ ล้อ และ
เขาก็ได้รับ “เงินซึ่งเพียงพอที่จะนำไปวางมัดจำค่าเช่ารายปี” (สัมภาษณ์ในรายการ ‘Golden Fishery-
Knee-Drop Guru’ ออกอากาศทางสถานี MBC เมื่อปี 2011) จางกึนซอกนั้นมีทัศนคติที่จะพลิกวิกฤติให้
เป็นโอกาส เขาผ่านความยากลำบากมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าแทนที่จะเอาแต่คร่ำครวญกับ
วิกฤติการณ์นั้น
สำหรับจางกึนซอกแล้ว ช่วงวัยเรียนของเขามีทั้งอุปสรรคและวันที่สวยงาม สมัยที่เขาเป็นนักเรียนชั้น
มัธยม เขามีช่วงเวลาแห่งความสุขตอนที่เขาไปเรียนที่ประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงระยะสั้นๆ เขาอาศัยอยู่
ในบ้านหลังเก่าเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นทำให้มีเขาในวันนี้ จางกึนซอกต้องอ่าน
หนังสือภายใต้แสงเทียนเพื่อประหยัดค่าไฟ และตัดฟืนเพื่อประหยัดค่าเครื่องทำความร้อน
มัธยม เขามีช่วงเวลาแห่งความสุขตอนที่เขาไปเรียนที่ประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงระยะสั้นๆ เขาอาศัยอยู่
ในบ้านหลังเก่าเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นทำให้มีเขาในวันนี้ จางกึนซอกต้องอ่าน
หนังสือภายใต้แสงเทียนเพื่อประหยัดค่าไฟ และตัดฟืนเพื่อประหยัดค่าเครื่องทำความร้อน
“ผมไปเรียนต่างประเทศในช่วงที่ครอบครัวของผมกำลังประสบปัญหาทางการเงิน ผมจึงมักใช้ชีวิตแบบ
มัธยัสถ์ อย่างไรก็ตาม ผมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับคุณแม่ ผมโตขึ้นมาโดยสนิทกับแม่เหมือนเราเป็นเพื่อน
กัน และผมก็เปิดใจรับวัฒนธรรมใหม่ๆ เสมอครับ”
มัธยัสถ์ อย่างไรก็ตาม ผมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับคุณแม่ ผมโตขึ้นมาโดยสนิทกับแม่เหมือนเราเป็นเพื่อน
กัน และผมก็เปิดใจรับวัฒนธรรมใหม่ๆ เสมอครับ”
(ซ้าย) จากภาพยนตร์เรื่อง ‘Baby and I’ (ขวา) ถ่ายแบบ
#นักแสดงจางผู้มีการพัฒนาอยู่เสมอ
หลังจากที่เขากลับมาเกาหลี เขากลับเข้าวงการบันเทิงอีกครั้งในละครซิทคอมเรื่อง ‘Nonstop 4’ ทาง
สถานี MBC อย่างไรก็ตาม เขาต้องรู้สึกถึงความกังวลใจเพราะไม่มีใครเสนองานให้เขาอยู่พักใหญ่ ใน
ตอนนั้น เขาก็ได้ไปเล่นละครเพลงเรื่อง Theseus and Hercules เพื่อพัฒนาทักษะการแสดงของตัวเอง
และเขาก็ได้ค้นพบถึงความสนุกในการแสดงบนเวที
สถานี MBC อย่างไรก็ตาม เขาต้องรู้สึกถึงความกังวลใจเพราะไม่มีใครเสนองานให้เขาอยู่พักใหญ่ ใน
ตอนนั้น เขาก็ได้ไปเล่นละครเพลงเรื่อง Theseus and Hercules เพื่อพัฒนาทักษะการแสดงของตัวเอง
และเขาก็ได้ค้นพบถึงความสนุกในการแสดงบนเวที
จากนั้นในปี 2006 เขาก็ได้เล่นละครเรื่อง ‘Hwang Jin Yi’ สถานี KBS2 ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับจางกึน
ซอกที่จะสลัดภาพนักแสดงเด็กไปสู่การเป็นนักแสดงผู้ใหญ่ เขารับบทเป็นอึนโฮผู้เป็นรักแรกของฮวางจินยี
ซอกที่จะสลัดภาพนักแสดงเด็กไปสู่การเป็นนักแสดงผู้ใหญ่ เขารับบทเป็นอึนโฮผู้เป็นรักแรกของฮวางจินยี
“ผมอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถแสดงได้ถึงแม้ว่าผมอยากจะแสดงก็ตาม ในที่สุด ผมก็ได้พบกับ ‘ฮ
วางจินยี’ และมีแรงบันดาลใจที่จะแสดงต่อไป”
วางจินยี’ และมีแรงบันดาลใจที่จะแสดงต่อไป”
ภาพนิ่งจากละครเรื่อง ‘Hwang Jin Yi’ ทางสถานี KBS2
หลังจากนั้น เขาก็มีผลงานอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง ‘The Happy Life’ ละครโทรทัศน์เรื่อง
‘Hong Gil Dong’ ทางสถานี KBS2 และ ‘Beethoven Virus’ ทางสถานี MBC เขาประสบความสำเร็จใน
ทุกๆ เรื่องที่แสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘You are Beautiful’ ทางสถานี SBS ทำให้เขากลายเป็นซุปเปอร์
สตาร์เกาหลีอย่างไม่ต้องสงสัยเนื่องจากเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จกว่าที่คาดไว้มาก
‘Hong Gil Dong’ ทางสถานี KBS2 และ ‘Beethoven Virus’ ทางสถานี MBC เขาประสบความสำเร็จใน
ทุกๆ เรื่องที่แสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘You are Beautiful’ ทางสถานี SBS ทำให้เขากลายเป็นซุปเปอร์
สตาร์เกาหลีอย่างไม่ต้องสงสัยเนื่องจากเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จกว่าที่คาดไว้มาก
ตอนนี้ จางกึนซอกกำลังมีผลงานละครเรื่อง ‘Beautiful Man’ ทางสถานี KBS2 ซึ่งคาดว่ากราฟชีวิตของ
เขาจะราบเรียบ นอกจากนี้ยังมี ‘สถานีวิทยุ ZIKZIN’ ที่เขาจัดขึ้นเพื่อสื่อสารกับแฟนคลับทั่วโลก ซึ่งทำให้
เขามีความสุขอย่างมาก
เขาจะราบเรียบ นอกจากนี้ยังมี ‘สถานีวิทยุ ZIKZIN’ ที่เขาจัดขึ้นเพื่อสื่อสารกับแฟนคลับทั่วโลก ซึ่งทำให้
เขามีความสุขอย่างมาก
โปรเจคของวง ‘Team H’ ซึ่งเปิดการแสดงที่ฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2013
“ในฐานะผู้จัดรายการวิทยุ ผมต้องย้อนมองตัวเองเป็นอย่างมาก จางกึนซอกเคยสร้างปัญหานิดหน่อย
โดยการโพสต์ข้อความด้วยความประมาททางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ผมตระหนักดีว่าผมต้องเบรกตัวเองและ
พยายามระงับความซุกซนจนเกินพอดีของผม ข้อดีของการจัดรายการวิทยุคือเราสามารถย้อนมองตัว
เองได้ในขณะที่กำลังใส่เสียงลงไปทางคลื่นวิทยุด้วยความรู้สึกที่ต่อเนื่อง แทนที่จะพิมพ์เป็นตัวหนังสือ
แล้วแชร์สิ่งที่ผมพบเจอกับแฟนๆ ของผม”
โดยการโพสต์ข้อความด้วยความประมาททางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ผมตระหนักดีว่าผมต้องเบรกตัวเองและ
พยายามระงับความซุกซนจนเกินพอดีของผม ข้อดีของการจัดรายการวิทยุคือเราสามารถย้อนมองตัว
เองได้ในขณะที่กำลังใส่เสียงลงไปทางคลื่นวิทยุด้วยความรู้สึกที่ต่อเนื่อง แทนที่จะพิมพ์เป็นตัวหนังสือ
แล้วแชร์สิ่งที่ผมพบเจอกับแฟนๆ ของผม”
ในขณะที่ก้าวสู่วัย 28 ปี เขารู้สึกหวั่นใจเล็กน้อยว่าจะสูญเสียความฝันอันยิ่งใหญ่ของเขาจากการพอใจ
ในสิ่งที่เป็นอยู่ มันเป็นการบ้านที่เขาต้องสร้างความสมดุลระหว่างเป้าหมายและการมีความสุขในชีวิต
ประจำวัน
ในสิ่งที่เป็นอยู่ มันเป็นการบ้านที่เขาต้องสร้างความสมดุลระหว่างเป้าหมายและการมีความสุขในชีวิต
ประจำวัน
“การมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่สำคัญครับ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผมแล้ว
ความฝันจะเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่ได้ ผมหวังว่าผมจะเป็นคนที่มีสุขภาพดีซึ่งสามารถค้นพบความสุขได้แม้
จากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และเป็นคนที่ตั้งความฝันได้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมเมื่อผมก้าวเข้าสู่วัย 28 ครับ”
ความฝันจะเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่ได้ ผมหวังว่าผมจะเป็นคนที่มีสุขภาพดีซึ่งสามารถค้นพบความสุขได้แม้
จากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และเป็นคนที่ตั้งความฝันได้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมเมื่อผมก้าวเข้าสู่วัย 28 ครับ”
เขียนโดย Jang Seo-yun (TenAsia)
เรียบเรียงและแก้ไขโดย Park Soo-jung (TenAsia)
ภาพจาก KBS, MBC, Tree J Company
แปลไทยและเรียบเรียงโดย Kate K-Gang
www.jangkeunsukthailand.com
No comments:
Post a Comment